คัดมาจากหนังสือ .. "
ย้อนรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา
" .. เขียนโดย หลวงปู่โง่น โสรโย (หน้า 43-46)
พบอาคันตุกะพระมหามิตรเดิม
เมื่อ
เรา
ได้
ที่
อยู่
อาศัย แบบ
ต่าง
แดน
แล้ว และ
ท่าน
ได้
จัด
สร้าง
อาศรม อัน
กระ
ทัด
รัด
ชั่ว
คราว โดย
เอา
ต้น
หมาก ต้น
ตาล
เป็น
เสา เอา
ใบ
ตอง
มุง
หลัง
คา กั้น
ฝา
ด้วย
เสื่อ
ลำ
แพน ให้
คน
ละ
หลัง
ยาว 5 ศอก
กว้าง 4 ศอก พอ
อยู่
กัน อย่าง
สบายๆ แบบ
สมณะ นับ
ว่า
เป็น
อาศรม
หลัง
น้อยๆ แต่
มัน
ให้
ความ
สุข ทาง
ใจ
อย่าง
เหลือ
หลาย ยิ่ง
กว่า
เวียง
วัง อัน
กว้าง
ใหญ่
ไพศาล แสน
สง่า
งาม ของ
พระ
เจ้า
จักร
พรรดิ์
เสีย
อีก เรา
อยู่
รวม
กับสห
ธรรมิก ต่าง
ชาติ
กัน แต่
ก็
รัก
กัน ฉัน
พี่
น้อง เพราะ
มี
พรรษา
ที่
บวช
มา
พร้อม
กัน คือ
ได้
แค่ 10 พรรษา
เท่า
นั้น ท่าน
มหา
คุรุปิ
ตะโก เจ้า
ของ
บ้าน
ท่าน
กรุณา ได้
นำ
เที่ยว แสวง
บุญ
ไป
นมัสการ สถาน
ที่
สำคัญๆ ทั่ว
ทุก
แห่ง ใน
ประเทศ
พม่า แต่
ท่า
นอ
ะมะ
รา
ตะนันท พระ
เนปาล สังขาร
ท่าน
ไม่
แข็ง
แรง จึง
อยู่
เฝ้า
อาศรม เป็น
เพื่อน เจ้า
เก่ง หมา
คู่
บารมี
ของ
เรา การ
เดิน
ทาง
โดย
รถ
ไฟ รถ
ยนต์ เรือ ใช้
เวลา 15 วัน
ก็
กลับ นับ
ว่า
ได้
ไปอภิ
วาท กราบ
ไหว้
สิ่ง
ศักดิ์ แทบ
ทุก
แห่ง
ใน
พม่า ใน
ยุค
ก่อน
นั้น พม่า
เขา
มี
สอง
เมือง
หลวง คือ เมือง
ย่าง
กุ้ง (แรง
กูน) เป็น
เมือง
หลวง
ของ
พม่า
ใต้ เมือง
มันฑะเล คือ เมือง
อัง
วะ เป็น
เมือง
หลวง
ของ พม่า
เหนือ และ
รัฐ
เชียง
ตุง เป็น
เอก
ของ
รัฐ
ฉาน การ
เดิน
ทาง
คราว
นั้น ข้าพเจ้า
ถวาย
ค่า
ใช้
จ่าย
ให้
ทุก
อย่าง พอ
กาล
เวลา
จะ
เข้า
พรรษา คือ
เพ็ญ
ตรง
กับ
วัน
ที่ 20 กรกฎาคม 2491 เป็น
วัน
เข้า
พรรษา ตุ๊
เจ้า
ทั้ง
สอง
องค์ คือ ท่า
นอ
ะมะ
รานันทะ ท่าน
เป็น
รอง
เจ้า
คณะ
ใหญ่ ใน
เนปาล ท่าน
ได้
ถูก
รัฐบาล
ประเทศ
ท่าน นิมนต์
ให้
กลับ ส่วน
ท่าน
มหา
เถระ ที่
ศรี
ลัง
กา
เขา
ก็
นิมนต์
ให้
กลับ เพราะ
ท่าน
ทั้ง
สอง เป็น
พระ
สงฆ์
ผู้
ทรง
คุณ
วุฒิ ระดับ
ชาติ ท่าน
กลับ
ก่อน 5 วัน เหลือ แต่
เรา
คน
เดียว เปลี่ยว
เอ
กา มี
หมา
แสน
รู้