คัดมาจากหนังสือ .. "ย้อนรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา" .. เขียนโดย หลวงปู่โง่น โสรโย (หน้า 75-77)

เกร็ดย้อนรอยประวัติศาสตร์ และ พงศาวดารพระตำนานของพระสุพรรณกัลยา

ดังผู้เขียนได้กล่าวไว้ ในคำปรารภเบื้องต้นนั้นว่า อันการได้มาซึ่งพระประวัติ เรื่องราวอันเป็นตำนาน ที่เป็นทั้งแบบรูปธรรม และนามธรรม ของพระตำนาน พระสุพรรณกัลยานั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะในประวัติศาสตร์ และพงศาวดาร ก็กล่าวไว้เพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่เรื่องที่เป็นความจริง หรือใกล้ความจริง ของวีรสตรีท่านนี้ จึงเกือบจะหาย จากความรู้สึกนึกคิด ความทรงจำของคนไทยไปแล้ว แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญ ที่เกิดจากความฝัน อันเป็นอารมณ์ ที่ธรรมชาติสร้างมา และบุญกรรม บาปเวร ที่มีอยู่ก่อน เป็นผลสะท้อน ย้อนมาให้ผู้เขียน ไปตามความฝัน เพื่อไปแก้กรรม และสร้างกรรมต่ออีก จึงได้ใช้ความพยายาม บุกป่าฝ่าดง มุ่งตรงต่อเมืองเมียนม่า ด้วยเท้าเปล่า โดยมิได้อาศัยยานพาหนะใดๆ ทั้งนั้น ด้นดั้นเดินธุดงค์ ไปอย่างเดียวดาย แทบจะถึงปางตาย เอาชีวิตไม่รอด และได้ไปเจอ มรสุมของชีวิต ทุกรูปแบบ ใช้เวลานานถึงสองปีกว่าๆ ในสถานที่ที่จะต้องการไป เพื่อศึกษาหาความจริง จากอารมณ์ฝัน เราไปแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แล้วเรื่องอะไรถึงต้องไป และก็ได้กล่าวตอบแล้วในตอนต้น อันยอดปรารถนาของเรา ก็เพื่ออยากสัมผัสทางจิตวิญญาณ เมื่อได้รับรู้ทางจิตวิญญาณ แล้วก็ค้นคว้า ให้จิตวิญญาณ ที่เป็นนามธรรมนั้น ให้เป็นรูปธรรมขึ้นมา คือพระฉายาลักษณ์ จากกล้องถ่ายรูป ออกมาจนได้ และก็ได้มีโอกาส ศึกษาค้นคว้าทางตำนาน จากตำรับตำราของเขา ที่เขาเก็บเอาไว้ ในหอสมุด บังเอิญได้พบหนังสือเก่าๆ เมื่อปี พ.ศ. 2229 ที่เขาไม่เอาใจใส่แล้ว มาศึกษาดู ก็ไปพบหนังสือ ซึ่งเป็นลายพระหัตถ์ ของพระนางเอง ที่เขียนเอาไว้หลานตอน ผู้เขียนจึงได้ตัดทอน ที่เป็นอักษรพม่าสมัยโบราณ เอามาลงไว้ดังต่อไปนี้

อักษรหนังสือนี้ เป็นอักษรโบราณนานมาแล้ว ซึ่งไม่ต่างกับอักษรไทย ในสมัยอยุธยา ผู้เขียนจึงแปล ออกมาได้ความว่า "ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของ พระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัว คือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พล และน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

"ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้อง ตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้าพเจ้ากลับมาลาพ่อแม่ เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงาน ข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสอง กลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมือง ที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์

เมื่อใช้ความพินิจพิจารณาดูด้วยเหตุผล และเนื้อเรื่องนี้แล้ว จะเห็นว่า ตัวพระนางเองเมื่ออายุได้ 14 ปี และน้องชายคนโตคือ เจ้าองค์ดำอายุ 12 ปี เจ้าองค์ขาวอายุ 10 ปี ก็ถูกกวาดต้อนไปด้วย เหตุที่ตัวพระนางจะไป เพราะน้องชายทั้งสองไม่ยอมไป ถ้าพี่สาวไม่ไปด้วย ก็ผิดกับพระตำนาน และประวัติศาสตร์ว่า พระนเรศวรมีอายุ 3 ปี ส่วนพระเอกาทศรถก็คงปีกว่าๆ เท่านั้น และเจ้าบุเรงนองจะเอาไปทำไม เพราะเล็กเหลือเกิน เดินไม่ไหว แถมยังเป็นภาระ ในการเลี้ยงดูอีก และจะเอาน้ำนมที่ไหนให้กิน เพราะสมันนั้นไม่มีนมเทียม นมสำเร็จรูป ที่จะให้เด็กเล็กๆ ดื่มได้อย่างสมัยนี้ ฟังดูแล้ว มันไกลจากความเป็นจริง แต่นี้พระเจ้าองค์ดำ มีพระชนมายุถึง 10 ปี เดินได้สบาย

... ติดตามตอนต่อไป ...
... กลับไปยังหน้าแรก ...